(รีวิว)สินเชื่อเงินด่วน Xpress Loan จาก ธนาคารกสิกรไทย สมัครง่าย ใช้ได้ทุกวัตถุประสงค์ |Guru Living



ตอบโจทย์คนอยากได้เงินก้อนมาใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้กับ
สินเชื่อเงินด่วน Xpress Loan จาก ธนาคารกสิกรไทย

ปี 2020 และช่วงเวลาถัดจากนี้เป็นเวลาที่เราต้องยอมรับกันแล้วหละครับว่าเรากำลังเผชิญหน้าอยู่กับ วิกฤติเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่งของประเทศเรา ซึ่งเอาเข้าจริงๆผลกระทบของวิกฤติรอบนี้ได้ถูกกระจายไปยังทุกภาคส่วน ทุกชนชั้น และ ทุกภูมิภาคเรียกว่าโดนกันถ้วนหน้าอย่างแท้จริงเลยครับ และที่ผมว่าน่ากลัวกว่านั้นคือเรายังไม่รู้เลยว่าวิกฤติรอบนี้จะจบลงเมื่อไร…..

เมื่อเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจขึ้นแบบนี้ผมเชื่อว่าเงินก้อนที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเราทุกคนในเวลานี้คือ “เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน” ครับ

เพราะอะไรเงินสำรองถึงสำคัญ? เพราะเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินจะเป็นเงินที่เป็นหลักประกันว่า ถึงแม้ว่าวันนึงรายได้เราจะหายไป เราอาจถูก layoff ออกจากงาน หรืออย่างไรก็ดี ถ้าเรามีเงินสำรองเราจะมีเงินที่จะคอย support เราในช่วงเวลาหนึ่งครับ ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ support ไปได้ตลอดแต่มันจะทำให้ เราหายใจหายคอได้สะดวกขึ้นครับและสามารถไปคิดแก้ปัญหาให้ชีวิตเดินหน้าต่อไปได้ครับ

แต่พูดว่าให้เก็บเงินสำรองมันก็พูดง่ายจริงไหมครับ พอเอาเข้าจริง ยิ่งในช่วงเวลาแบบนี้ด้วยแล้วเราทุกคนก็มักจะต้องเจอกับ “รายจ่ายจำเป็น” ที่หลีกเลี่ยงไม่ค่อยได้เข้ามาในชีวิตเราใช่ไหมหละครับ รายจ่ายพวกนี้เช่นอะไรบ้างหรอครับ

สมมุติว่า……
ลูกต้องจ่ายค่าเทอมเดือนหน้านี้หละ?
คุณแม่ต้องเข้า รพ เพื่อรับการผ่าตัดหละ ?
ค่างานแต่งงานที่กำลังจะจัดเดือนหน้าหละ ?
ภรรยาที่มีกำหนดคลอดเดือนหน้านี้หละ ?
เพิ่งซื้อบ้านมา ค่าตกแต่งบ้าน ค่าซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านหละ ?

ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ข้างต้นที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมาผมเชื่อว่าเพื่อนๆที่ได้อ่านมาจนถึงตอนนี้คงรู้สึกเหมือนผมกันนะครับว่า มันไม่ใช่เรื่องไกลตัวของพวกเราเลยจริงไหมครับ

คำถามคือถ้าเกิดค่าใช้จ่ายพวกนี้ขึ้น เราจะเอาเงินก้อนที่ไหนไปจ่ายครับ?
ถึงแม้ว่าเราจะมีเงินเก็บเงินออมอยู่แล้วแต่ ณ เวลานี้เราควรจะเอาเงินเก็บเงินออมมากันไว้เป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินก่อนเพื่อป้องกันความเสี่ยงกับอนาคตที่ยังไม่แน่นอนหรือเปล่าครับ

แล้วถ้าอยากได้เงินก้อน แต่ไม่อยากเอาเงินเก็บมาใช้ต้องทำอย่างไรดี?

มีสินเชื่อเงินก้อนตัวหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการเงินก้อนในภาวะเศรษกิจแบบนี้ครับสินเชื่อตัวนี้ชื่อว่า Xpress Loan จาก ธนาคารกสิกรไทย ครับ
สินเชื่อตัวนี้เป็นสินเชื่อเงินก้อนอเนกประสงค์ที่เราสามารถนำเงินก้อนออกมาใช้จ่ายเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในช่วงเวลานี้ได้ครับ

สินเชื่อตัวนี้ไม่ว่าเราอยากได้เงินก้อนไปตกแต่งต่อเติมบ้าน ซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน หรือ เอาไปจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆที่ผมได้ยกตัวอย่างไปด้านบนก็สามารถทำได้ทั้งนั้นครับเพราะอย่างที่บอกไปว่าสินเชื่อตัวนี้เป็นสินเชื่อ “อเนกประสงค์” ดังนั้นจึงใช้ได้ทุกวัตถุประสงค์เลยครับ หรือแม้กระทั่งเราเอาสินเชื่อตัวนี้ไปปิดหนี้นอกระบบบางตัวที่ดอกเบี้ยแพงมากกกก ก็สามารถทำได้เช่นกันนะครับ

แล้ว Xpress Loan เนี่ยต้องผ่อนกี่เดือนและผ่อนแพงไหม?
สินเชื่อ Xpress Loan จาก ธนาคารกสิกรไทย ตัวนี้เป็นสินเชื่อที่ค่อนข้างมีความ Flexible สูงครับคือเราสามารถกำหนดแผนการผ่อนชำระด้วยตัวเองได้ด้วยครับว่า เราต้องการจะผ่อนกี่ปี ผ่อนกี่งวด ผ่อนกี่บาท ซึ่งระยะเวลาผ่อนของสินเชื่อตัวนี้จะเริ่มตั้งแต่ 12 เดือน ไปจนถึง 60 เดือนครับพูดง่ายๆว่าเลือกระยะผ่อนได้ 1 – 5 ปี ครับ

และที่สำคัญที่สุดครับลักษณะการคิดดอกเบี้ยของสินเชื่อ Xpress Loan ตัวนี้ใช้การคิดแบบ ลดต้นลดดอก ด้วยนะครับหมายความว่ายิ่งเราชำระเงินต้นให้เหลือน้อยเท่าไร ดอกเบี้ยที่เราจะต้องจ่ายยิ่งน้อยเท่านั้นด้วยครับ

ผมลองยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันนะครับสมมุติว่าผมเป็นพนักงานเงินเดือนที่มีเงินเดือน 30,000 บาทและผมอยากได้เงินก้อนเพื่อจะไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นเข้าบ้านแต่ผมไม่อยากเอาเงินเก็บออกมาใช้เพราะผมอยากเผื่อสำรองไว้เผื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่ฉุกเฉินในอนาคต

ซึ่งถ้าผมขอสินเชื่อ Xpress Loan จาก ธนาคารกสิกรไทย ผมจะสามารถขอยอดสินเชื่อได้สูงสุด 90,000 บาท ครับ (แต่จริงๆเราไม่จำเป็นต้องเอาวงเงินทั้งหมดได้นะครับ สามารถเลือกได้ว่าจะเอาเท่าไร) และที่สำคัญผมสามารถเลือกกำหนดแผนการผ่อนชำระได้ด้วยครับว่า ผมอยากผ่อนสักกี่เดือนและผ่อนต่อเดือนเยอะหรือน้อยดี เช่นถ้าผมคิดว่าช่วงนี้รายจ่ายอื่นๆเยอะแล้วอยากจะให้ค่าผ่อนของสินเชื่อตัวนี้น้อยหน่อยก็อาจจะเลือกให้ผ่อนยาวหน่อย แต่ถ้าเราคิดว่าช่วงนี้เรามีกำลังผ่อนไหวและอยากจบหนี้ตัวนี้เร็วๆเราก็อาจจะเลือกผ่อนให้จบภายใน 1 ปีแบบนี้ก็สามารถทำได้นะครับ

สินเชื่อ Xpress Loan ใครสมัครได้บ้างและจะไปสมัครได้ที่ไหน
Xpress Loan ตัวนี้คือสามารถสมัครได้ง่ายมากครับไม่ยุ่งยากอะไรเลยขอเพียงแค่เรามีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไป เป็นคนไทยที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปและถ้าเป็นพนักงานบริษัทต้องมีอายุงานไม่น้อยกว่า 6 เดือนเราก็เข้าเกณฑ์ที่จะขอสินเชื่อได้แล้วครับ
ส่วนเอกสารการสมัครถ้าเรามีเงินเดือนกับทางธนาคารกสิกรไทยแค่ บัตรประชาชน 1 ใบแค่นี้ก็สามารถสมัครได้แล้วครับแต่ถ้าไม่มีบัญชีเงินเดือนกสิกรไทยสิ่งที่ต้องใช้ก็ตามรายละเอียดด้านล่างเลยจ้า

#xpressloan #สินเชื่อเงินด่วน #สินเชื่อเงินก้อน #สินเชื่อเงินก้อนกสิกรไทย

เงินกู้ฟรีไม่ต้องผ่อน 6 เดือนแรก ดอกเบี้ยต่ำ จากธนาคารออมสิน | สินเชื่อเสริมพลังฐานราก 2567



เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ กู้ฟรีไม่ต้องผ่อน 6 เดือนแรกจากธนาคารออมสิน | สินเชื่อเสริมพลังฐานราก 2567

สำหรับมาตราการช่วยเหลืออื่นๆสามารถกด Link เพื่อเข้าไปดูได้เลยครับ

จุดเด่นเชื่อเสริมพลังฐานราก
วงเงินสูงสุด 50,000 บาท
ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ไม่ต้องผ่อนชำระ 6 เดือนแรก
อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน (Flat Rate)
ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี
พ่อค้า ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ ผู่มีรายได้ประจำ

คุณสมบัติ
เป็นลูกค้าสินเชื่อของธนาคารออมสิน หรือปิดบัญชีมาแล้วไม่เกิน 3 ปี
เป็นผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ เช่น ค้าขาย อาชีพด้านบริการอายุ 20 ปีขึ้นไป เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ต้องชำระเงินกู้ ต้องไม่เกิน 70 ปี
ผู้มีรายได้ประจำ เช่น พนักงาน ลูกจ้างหน่วยงานเอกชนที่มีเงินเดือนประจำ อายุ 20 ปีขึ้นไป เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ต้องชำระเงินกู้ ต้องไม่เกิน 60 ปี
ผู้ได้รับผลกระทบจาก “โควิด-19”
เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่แน่นอนสามารถติดต่อได้
-ไม่เป็นลูกจ้าง หรือพนักงานของธนาคารออมสิน
-ไม่เป็นผู้ได้รับรายได้ประจำจากหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ

คำถามคือ งวดที่ไม่ต้องจ่าย 6 เดือนแรกธนาคารจะคิดดอกเบี้ยไหม
ธนาคารคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรกที่เราได้รับเงินมาครับ

3. วิธีลงทะเบียน “สินเชื่อเสริมพลังฐานราก”
การลงทะเบียนขอสินเชื่อเสริมพลังฐานรากผ่านแอพพลิเคชั่น “MyMo” ของ “ธนาคารออมสิน” สามารถทำได้ ตามขั้นตอนต่อไปนี้

# สินเชื่อเสริมพลังฐานราก #เงินกู้ออมสิน #ออมสิน #มาตราการช่วยเหลือออมสิน #ออมสินพักชำระหนี้ #สินเชื่อออมสิน

กู้บ้าน ยังไงให้ผ่านผ่าน 100% เคล็ดลับการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารที่ควรต้องรู้ !



เตรียมความพร้อมก่อนกู้บ้าน เตรียมความพร้อมยังไงให้กู้บ้านผ่านแบบ 100%

โดยส่วนมากแล้วเวลาที่เราจะซื้อบ้านนะครับเราก็จะกู้สินเชื่อของธนาคารถูกต้องไหมครับเพราะโดยน้อยกว่าจริงๆนะที่จะมีเงินสดเพียงพอที่จะไปซื้อบ้านด้วยเงินของตัวเองดังนั้นแล้วเนี่ย ธนาคารเนี่ยเขาก็จะมีหลักการคิดหลักการพิจารณาอะไรบางอย่างครับเพื่อที่จะพิจารณาว่าเขาจะปล่อยเงินให้เราพูดหรือเปล่า ซึ่งหลายคนเนี่ยก็คงเคยได้ยินเรื่องราวกันบ้างนะครับว่าบ้านธนาคารปล่อยยากบางธนาคารเงื่อนไขเยอะหรือแม้กระทั่งว่าบางธนาคารไม่รับเลยก็มี ดังนั้นวันนี้เราจะมาคุยกันว่าก่อนที่คุณจะไปยื่นขอสินเชื่อนะเนี่ยคุณควรจะวางแผนยังไงคุณจะเตรียมตัวยังไงให้พร้อมในการขอสินเชื่อเวลาไปขอแล้วเนี่ยมันจะได้มีโอกาสผ่านมากยิ่งขึ้นครับ

ก่อนที่เราจะไปคุยกันต่อในหัวข้อถัดไปนะครับสำหรับใครที่พึ่งมาฟังคลิปนี้นะฮะและเป็นคนที่กำลังวางแผนซื้อบ้านหลังแรก ยังงงๆอยู่ว่าไม่รู้จะปรึกษาใครไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดีผมขอแนะนำนะครับว่าผมเนี่ยได้ทำคลิปวีดีโอในซีรีย์ How to ซื้อบ้านหลังแรก ไว้ในช่อง YouTube Channel นี้ สามารถกด

1.เช็ครายได้ ตรวจสอบความสามารถในการผ่อนชำระ

ที่นี้มาเริ่มกันเลยครับก่อนอื่นที่เราจะไปกู้สินเชื่อบ้านหรือเราจะไปซื้อบ้านสักหลังนึงเนี่ยสิ่งแรกที่เราควรจะประเมินเลยนะครับคือความสามารถในการผ่อนชำระบ้านหลังนั้นของเราเนี่ยมีเท่าไหร่ครับ ซึ่งเป็นภาษาบ้านก็คือรายได้ประมาณนี้จะสามารถซื้อบ้านซื้อคอนโดได้ประมาณกี่ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ผมเคยได้ทำคลิปอธิบายไปแล้วนะครับว่าธนาคารเขามีเกณฑ์คิดหลักการพิจารณายังไงว่าคนที่มีรายได้เท่านี้มีหนี้สินเท่านี้เนี่ยจะสามารถกู้ซื้อบ้านกู้ซื้อคอนโดได้เท่าไหร่ แต่ผมให้หลักเกณฑ์ง่ายไปอย่างนี้เลยละกันนะครับว่า ธนาคารนะครับเขาจะยอมให้เรามีหนี้ได้ไม่เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมของเราครับยกตัวอย่างว่าถ้าเรามีรายได้ 100 บาท เราจะมีหนี้ได้ไม่เกิน 40 บาทครับอันนี้เป็นเกณฑ์มาตรฐานขั้นต้นเลยนะ ซึ่งตรงนี้ใครอยากดูคลิปแบบเต็มนะครับสามารถกดด้านล่างเพื่อเข้าไปดูคลิปได้เลยนะ

เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้กี่ล้านบาท ? | ธนาคารเขาคิดยังไง | ค่า DSR คืออะไร ?

2. เช็คภาระหนี้สิน ตรวจสอบเครดิตทางการเงิน
ทีนี้พอเราประเมินแล้วใช่ไหมครับว่ารายได้เราเท่านี้เราจะกู้ซื้อบ้านซื้อคอนโดได้ประมาณเท่านี้บาทสิ่งที่ 2 ที่เราควรจะเตรียมตัวครับคือเตรียม เครดิตทางการเงินของเราไว้ให้ดี ซึ้งในคำว่าเตรียมความพร้อมเรื่องเครดิตทางการเงินก็คือไม่ไปสร้างหนี้อื่นๆไว้ครับไม่ว่าจะเป็นหนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ทั้งหมดเหล่านี้ครับล้วน เป็นหนี้ในระบบที่เขาจะเอามาคิดรวมกันเป็นภาระหนี้ของเราทั้งนั้นดังนั้นกลับไปข้อแรกที่ผมได้บอกไปครับว่าถ้าสัดส่วนภาระหนี้กับรายได้ของเราเนี่ยเกิน 40% มีโอกาสสูงมากครับที่ธนาคารเขาจะไม่อนุมัติเงินกู้ให้กับเราครับดังนั้นสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะกู้ซื้อบ้านสิ่งที่ควรทำคือคุณควรจะเคลียร์หนี้เก่าๆที่คุณมีไว้นะครับลองประเมินดูว่า อะไรตัดได้อะไรปิดได้ให้ปิดให้ตัดออกไปก่อนนะครับ

รวมถึงอีกสิ่งที่ควรทำนะครับคือไปเช็คเครดิตบูโรไว้เบื้องต้นก่อนเลยก็ได้นะครับว่าเรามีเครดิตบูโรติดอะไรอยู่หรือเปล่าประวัติทางการเงินอะไรเสียหรือเปล่านะครับ

แต่ไฮไลท์สำคัญนะครับ ที่อยากจะบอกทุกคนเอาไว้ก็คือถ้าใครที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านคุณควรบริหารจัดการหนี้สินของคุณให้ดีนะครับภาระหนี้สินตัวก่อนที่เคยมีคนจะปิดทิ้งหรือควรจะให้มันอยู่ในสัดส่วนที่สามารถจัดการได้นะครับก่อนที่จะไปวางแผนกู้ซื้อบ้านหลังใหม่หรือบ้านหลังแรกก็ตามนะครับ

3.เตรียมความพร้อมเรื่องเอกสาร
การยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารครับเราก็จะต้องไปยื่นเอกสารต่างๆให้กับทางธนาคารโดยประเภทของเอกสารครับท่านแบ่งออกมาเป็นหลักๆแล้วจะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ

4. รักษาวินัยทางการเงิน
จริงๆแล้วข้อ 4 เนี่ยครับเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยนะครับสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะกู้ซื้อบ้านการรักษาวินัยทางการเงินเนี่ยเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้เรากู้ซื้อบ้านแล้วผ่านแบบสบายๆ รวมไปถึงว่าถึงผ่านแล้วเราก็จะสามารถผ่อนได้แบบไม่ต้องกังวลและไม่มีปัญหาอะไรด้วยครับ ซึ่งมีคำคำหนึ่งเพื่อนๆเคยได้ยินกันไหมครับว่าธนาคารไม่เคยขอดูเกรดเฉลี่ยของคุณนะครับสิ่งเดียวที่ธนาคารอยากรู้ว่าเขาจะมั่นใจว่าเขาจะปล่อยเงินกู้ให้คุณได้หรือไม่นั่นก็คือเขาอยากดูสมุดพกทางการเงินของคุณครับซึ่งสมุดพกทางการเงินของเราเนี่ยมันก็คือตัวเครดิตของเรานี่แหละครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาระหนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินสดที่เราฝากไว้กับธนาคารหรือทรัพย์สินที่เรามีอยู่นี่ล่ะครับเป็นปัจจัยที่ธนาคารเขาอยากรู้ว่าเรามีวินัยทางการเงินดีแค่ไหน ซึ่งแน่นอนว่าคนที่มีวินัยทางการเงินดีมีเงินเก็บอยู่ตลอดเนี่ยมีโอกาสที่จะกู้สินเชื่อผ่านมากกว่าคนที่ไม่มีวินัยทางการเงินอยู่แล้ว

#กู้บ้าน #สินเชื่อบ้าน #เตรียมกู้บ้าน #กู้ซื้อบ้าน #บ้าน