Shopee ประกาศ ! แจ้งยกเลิกผูกบัญชีธนาคารอย่างถาวร ตั้งแต่ 6 ธ.ค. นี้ เป็นต้นไป หลังเกิดปัญหาบัญชีลูกค้าสูญเงิน โดยสามารถชำระเงินผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้ปกติ ผู้เสียหายโผล่จำนวนมาก พบเงินถูกตัดออกจากบัญชีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักแสนบาท แจ้งความแต่เรื่องเงียบ
ภายหลังจากที่มีผู้ร้องเรียนว่า ได้ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นช้อปปิ้งออนไลน์หนึ่ง โดยผูกบัญชีธนาคารเพื่อชำระค่าสินค้า ลูกค้าซึ่งเป็นผู้เสียหายทั่วประเทศจำนวนมาก ถูกตัดจ่ายอัตโนมัติไปยัง sips shopeepay (thailand) co.ltd ซึ่งโอนเงินออกจากบัญชี โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรมและไม่มีการแจ้งยืนยัน OTP บางรายสูญเงินตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักแสนบาท โดยไม่ทราบสาเหตุ
ล่าสุดวานนี้ (5 ธ.ค.) เวลา 11.10 น.แอปพลิเคชันซื้อของออนไลน์ Shopee ส่งข้อความตรงถึงผู้ใช้แอปฯ ทุกคน โดยประกาศผ่านการแจ้งเตือนว่า ประกาศ : เปลี่ยนแปลงช่องทางการชำระเงิน Shopee จะเริ่มทำการปิดช่องทาง “การชำระผ่านบัญชีธนาคาร” เป็นการถาวร ตั้งแต่ 6 ธ.ค.65 เป็นต้นไป โดยคุณสามารถชำระเงินผ่านพร้อมเพย์, ShopeePay หรือช่องทางอื่นๆ ได้ตามปกติ
ตอนนี้มีผู้เสียหายเกือบร้อยราย ออกมาแสดงตัวและรวมตัวกัน ยอดมูลค่าเสียหายรวมกว่าล้านบาทแล้ว และมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายได้ตั้งกลุ่มไลน์พุดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น พร้อมช่วยกันรวบรวมหลักฐาน เพื่อจะรวมตัวกันไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลายคนเข้าแจ้งความแล้ว แต่เรื่องยังเงียบและยังไม่ได้เงินคืนแม้แต่คนเดียว
ทีมข่าวได้คุยกับคุณแก้ว อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย เผยว่า ตนผูกบัญชีธนาคาร ttb กับแอปช้อปปี้ เพราะไว้ซื้อสินค้าในแอปฯ และผูกไว้เพื่อรับเงินเนื่องจากตนเองทำอาชีพเสริมขายของผ่านแอปช้อปปี้ด้วย ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งคืนวันที่ 23 พ.ย.65 เวลาประมาณตี 2 มีการแจ้งเตือนจากช้อปปี้ ว่าถูกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ แอคเคาท์ รหัสผ่าน และพบว่ามีการสั่งซื้อสินค้าในแอปฯ ทั้งที่ตนไม่ได้เป็นคนสั่งซื้อหรือทำธุรกรรม
จากนั้นตนเข้าไปเช็คยอดเงินในบัญชีธนาคาร ttb พบว่าเงินถูกตัดออกไปจากบัญชีจำนวน 3 ครั้ง ในคืนวันที่ 23 พ.ย. 65 เวลา 02.10 น. 59,500 บาท / เวลา 02.11 น. 24,000 บาท /เวลา 02.17 น.37,400 บาท ซึ่งเหลือเงินในบัญชี 48,167 บาท ตนจึงรีบโอนเงินไปยังบัญชีธนาคาร SCB ซึ่งบัญชีนี้ก็ผูกกับแอปช้อปปี้เช่นกัน ปรากฎว่าในคืนวันเดียวกันก็ถูกตัดเงินออกจากบัญชีธนาคาร SCB จำนวน 3 ครั้ง ในเวลา 02.21 น. 10,000 บาท / 20,000 บาท / 20,000 บาท รวมสูญเงินไปทั้งหมด 175,293 บาท
ผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง เผยว่า ตนแค่อยากได้โปรลดราคาที่ต้องซื้อและจ่ายผ่านแอปช้อปปี้เพย์ จึงผูกบัญชีไว้เพื่อใช้เติมเงิน wallet เท่านั้น ซึ่งก็จะมีรหัสให้กรอกทุกครั้ง โดยวันที่ 21 กรกฎาคม 65 เวลาประมาณตี 1 ตนสะดุ้งตื่นเพราะ sms alert ของธนาคารดังถี่ๆ มารู้ว่าเป็นรายการผ่านช้อปปี้ ตนจึงเข้าไปดูในแอปฯ ปรากฎว่ามีการซื้อบัตรเติมเกมเป็น 10 ใบ, ซื้อบัตรเติมเงิน, เติมเงินเข้าช้อปปี้เพย์ แล้วโอนไปเข้าบัญชีใครสักคน โดนหักเงินในบัญชีไป 13 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 28,390 บาท จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร
ตนพยายามติดต่อทางช้อปปี้ ทางนั้นก็ให้ไปติดต่อช้อปปี้เพย์ แจ้งว่าเป็นการดำเนินการผ่านช้อปปี้เพย์ พอตนโทรไปช้อปปี้เพย์ ก็บอกให้ตนติดต่อช้อปปี้ เพราะเป็นการซื้อของผ่านแอปฯ สุดท้ายช้อปปี้ ก็ให้ส่งหลักฐานเข้าไปพร้อมใบแจ้งความ ซึ่งได้คำตอบแค่ว่าเราน่าจะโดนแฮ็ก โดยหลังจากนี้จะเป็นไปตามขั้นตอนของฝ่ายกฎหมาย จากนั้นก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลย พอโทรเข้าไปใหม่ก็ให้ตนส่งเอกสารใหม่ เลยได้แต่ทำใจทำงานใช้หนี้เงินที่หายไป พร้อมระบุว่า ใครใช้บริการอยู่ไปยกเลิกเถอะ มันไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่ระบบสมควรจะเป็นเลย จะได้ไปต้องมาเจอเหตุการณ์แบบเรา
อย่างไรก็ตาม ทางผู้เสียหายอยากให้คนที่โดนตัดเงินออกจากบัญชี ให้ออกมาแสดงตัวกันผลักดันเรื่องนี้ ช่วยกันโพสต์และแชร์ ติด #ทวงเงินคืนจากช้อปปี้ โดยวันนี้ (6 ธ.ค.) เวลาบ่าย 2 โมง ตัวแทนผู้เสียหายจะไปบริษัท ช้อปปี้ ประเทศไทย เพื่อยื่นเอกสารหลักฐานการแจ้งความ ตามที่ช้อปปี้แจ้งให้ยื่นตามกระบวนการ
และวันนี้ ( 6 ธ.ค ) เวลา 10.00 น. ผู้เสียหายรวมตัวกัน จะเข้าพบทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อปรึกษาแนวทางในการดำเนินคดีเบื้องต้น เตรียมเอาผิดช้อปปี้ จะให้ปิดแอปดังกล่าวตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หากไม่คืนเงินภายใน 3 วันโดยไม่มีเงื่อนไข
จากการสอบถามผู้เสียหายหลายราย หลักๆ แล้ว ส่วนใหญ่จะถูกหักเงินออกจากบัญชีธนาคารไปที่ Shopee Pay แยกออกไปหลายกรณี ดังนี้
1. มีการสั่งซื้อสินค้าในแอพShopee (ส่วนใหญ่เป็นสินค้าดิจิทัล) ที่ผู้เสียหายไม่ได้เป็นผู้สั่งเอง ไม่รับรู้รับทราบ และถูกตัดเงินออกจากบัญชี ShopeePay
2. มีการหักเงินจาก ShopeePay เพื่อชำระสินค้าหรือบริการนอกแอพShopee (เติมเกมส์ ซื้อแอพ เติมเงินโทรศัพท์ ฯลฯ) โดยผู้เสียหายไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการเอง
3. มีการโอนเงินจากบัญชี ShopeePay ไปยังบุคคลอื่น
4. มีการหักเงินจาก ShopeePay เพื่อชำระสินเชื่อ Spaylater แต่ยอดเงินไม่ไปถึงปลายทาง หรือมีการตัดเงินซ้ำซ้อน
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ :
————————-
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 6 ธันวาคม 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus :
facebook :
Twitter :
YouTube :
#3PlusNews #Ch3Plus #ข่าวช่อง3