พิษณุโลก-น.ส.วรรณทา มีแก้ว อายุ 45 ปี ชาว จ.สุโขทัย ได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากได้รับการข่มขู่ทางไลน์ให้ชดใช้เงินที่กู้ผ่านแอปทางโทรศัพท์ ไม่เช่นนั้นจะส่งคนมายึดทรัพย์และกระทืบให้ตาย จึงเกิดความกลัวจึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก
โดย น.ส.วรรณทา กล่าวว่า ที่ผ่านมาพยายามแก้ปัญหาโดยพยายามปิดบัญชีเงินกู้ที่กู้ผ่านแอปทางโทรศัพท์มือถือมาตลอด จากเดิมที่กู้มาทั้งหมด 8 แอป ตอนนี้เหลือเพียง 3 แอป แต่เจอปัญหาต้นทับดอกไม่สามารถที่จะปิดได้อีก ทั้งกิจการรับซักรีดก็ซบเซา เงินเก็บที่หามาเก็บไว้ก็หมดลง ทำให้ทุกวันนี้เงินจะกินข้าวก็ยากลำบาก แล้วต้องมาเจอปัญหาข่มขู่แบบนี้อีก
ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ไปกู้เงินทางแอปมือถือ ก็มาจากช่วงโควิดที่ผ่านมา ธุรกิจซักอบรีดไม่ค่อยดี จนวันหนึ่งตนเล่นเกม แล้วเห็นโฆษณาเชิญชวนกู้เงินผ่านโทรศัพท์ ได้ง่ายเพียงใช้บัตรประชาชนกับหน้าสมุดบัญชี เบื้องต้นก็ลองกู้ไป 2,000 บาท ได้เงินมา 1,300 บาท มีระยะเวลาคืนภายใน 7 วัน หากเกินก็จะต้องเสียดอก 300 บาท ต่อวัน ต่อมาตนก็กู้เพิ่มในแอปใหม่เพื่อนำเงินมาจ่ายแอปเก่า เนื่องจากหาเงินไม่ทัน จนกระทั้งทบไปทบมาจนกู้ไป 8 แอป
อีกทั้งธุรกิจซักอบรีดแทบไม่มีงานเข้า จึงได้นำเงินเก็บที่สะสมไว้มาจ่ายปิดเงินกู้ไปได้ 5 แอป ปัจจุบันเหลือ 3 แอปที่ต้องจ่ายเงินอยู่ แต่เงินไม่พอทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินกู้ได้ จนถูกทวงถาม ก็พยายามอ้อนวอนให้ผ่อนผันขยายเวลาและไม่คิดดอกเพิ่ม แต่ทางเจ้าหนี้ไม่ยอมบอกว่าต้องจ่ายค่าดอกมาทุกอาทิตย์อาทิตย์ละ 1,000 บาท พร้อมส่งข้อความทวงถามมาทางไลน์ กระทั้งข่มขู่ว่าจะส่งคนมายึดทรัพย์ จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไปร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ
ตนยอมรับว่าตนผิดพลาดที่ไปกู้เงินมา แต่ก็พร้อมจะชดใช้เงินที่กู้มาแต่ก็ขอให้เวลาหาเงินและอย่าคิดดอกสูงจนโหดแบบนี้
ในขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบพบว่า การปล่อยกู้ตามสื่อโซเซียลมีจำนวนมาก จะมาลักษณะแบบกู้ง่ายแต่ไม่เปิดเผยดอกเบี้ย ทำให้มีหลายคนเข้าไปกู้และเป็นหนี้จนเจอปัญหาแบบนี้จำนวนมาก
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ :
————————-
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 5 มีนาคม 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus :
facebook :
Twitter :
YouTube :